พระพุทธรูปแบบทวารวดีได้รับอิทธิพลอย่างเห็นได้ชัดจากพระพุทธรูปแบบคุปตะและหลังคุปตะ ซึ่งเจริญแพร่หลายอยู่ทางภาคกลางและภาคตะวันตกของประเทศอินเดียสมัยอมราวดีซึ่งเข้ามาก่อนหน้านั้น เนื่องจากอาณาจักรทวารวดีเจริญอยู่เป็นเวลานานมาก ฉะนั้นจึงได้รับอิทธิพลจากศิลปะรุ่นต่อมาของอินเดียอีก คือ ศิลปะแบบปาละ ซึ่งเป็นศิลปะทางพุทธศาสนา เจริญขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียระหว่างพุทธศตวรรษที่ 14-17 พระพุทธรูปแบบทวารวดีชอบสลักด้วยศิลา ที่หล่อเป็นสัมฤทธิ์ก็มีบ้าง แต่มักจะเป็นขนาดเล็ก และได้มีการค้นพบพระพุทธรูปยืนสัมฤทธิ์ทวารวดีองค์หนึ่งที่เมืองฝ้าย อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ สูงถึง 1.09 ม. อาจนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทวารวดีองค์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา พระพุทธรูปองค์นี้พระพักตร์ยังคงคล้ายศิลปะอินเดียอยู่มาก เหตุนั้นจึงอาจถูกหล่อขั้นในราวต้นพุทธศตวรรษที่ 13
พระพุทธรุปสัมฤทธิ์สมัยทวารวดีที่จัดมาใหญ่ที่สุด |